วิกฤตโควิด-19 กับ ปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในชุมชน
แปลจาก Covid-19 and Urban Pests How will the Covid-19 pandemic influence urban
pests and industry to the future
บทความแนะนำจาก สมาคมผู้ประกอบกิจการรับจ้างกําจัดแมลง (TPMA)
ที่มา / เนื้อหาจาก Federation of Asian & Oceania Pest Managers Association (FAOPMA)
FAOPMA Federation of Asian & Oceania Pest Managers Association (FAOPMA) คือ การรวมตัวกันของสมาคมผู้ประกอบการณ์ที่ทำธุรกิจหรือกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการกำจัดปลวก แมลง และ สัตว์รบกวน ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กว่า 16 ประเทศ
ซึ่งในประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบกิจการรับจ้างกําจัดแมลง THAILAND PEST MANAGEMENT ASSOCIATION (TPMA) เป็นสมาชิกหลัก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจกำจัดแมลงในประเทศไทย
วิกฤตโรค ระบาดโควิด-19 ส่งผลต่อปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในชุมชน และ ภาคธุรกิจนั้น ๆ อย่างไร ในอนาคต ?
Covid-19 and Urban Pests : How will the Covid-19 pandemic influence urban pests and industry to the future ?
เขียนโดย Stephen L. Doggett และ Chow yang lee
แปลโดย ปกป้อง วามะศิริภัทร
เผยแพร่กิจการของสมาชิกแนะนำการป้องกันและกำจัดแมลง อย่างถูกวิธี ตามหลักมาตรฐานสากล บนพื้นฐานของการรับผิดชอบต่อ คนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในครั้งนี้ ทาง สมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลง ได้มอบหมายให้ คุณปกป้อง วามะศิริภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บั๊ก โซลูชันส์ จำกัด อดีตกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลง (Foreign Affairs Committee of TPMA) และร่วมประชุมกับ FAOPMA ในปี 2016 ณ Sea World Goldcoast ประเทศ Australia เป็นผู้แปลและเรียบเรียงบทความ เพื่อนำมาเป็นความรู้และแนวทางการปรับตัวในช่วงสภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อวงการกำจัดแมลงไทย
ปราศจากข้อสงสัยว่า ภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในขณะนี้คือภัยคุกคามที่รุนแรงที่สุดครั้งเดียวที่มนุษยชาติเคยพบเจอ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2. อย่างไรก็ตามภาวการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์ ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในระยะยาวของโลก ซึ่งการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของวิกฤตไวรัสโควิด 19 ทำให้เกิดปรากฏการความตื่นตระหนกและความสูญเสียอย่างร้ายแรง ณ ช่วงเวลาที่เผยแพร่บทความนี้ (1 พ.ค. 63) จำนวนของผู้ติดเชื้อมีมากกว่า 3.3ล้านคนและเสียชีวิตแล้วกว่า 230,000คนทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงนั้นอาจจะมากกว่าจำนวนที่ได้รับรายงานมา5-10เท่า จากข้อมูลที่มีอยู่ เพราะในบางประเทศมีปริมาณการตรวจโรคที่จำกัด ซึ่งในขณะที่คุณได้อ่านบทความนี้ ช่างน่าเศร้าที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบอาจมีมากกว่าเดิมอย่างมาก คำถาม คือ เมื่อไร วิกฤตนี้จะถึงจุดยุติ? ซึ่งนักวิชาการบางท่านได้มีการ คาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตว่าอาจมีมากถึง 200
ล้านคนทั่วโลก หวังว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมและนโยบายการล็อคดาวน์ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น จะสามารถลดปริมาณความสูญเสียในปัจจุบันไม่ให้แตะตัวเลขจากการคาดการณ์ที่น่าเสียวสันหลังนี้
ในปัจจุบัน สถาบันวิจัยทั่วโลกได้มีการแข่งขันกันเพื่อเอาชนะ ไวรัสโควิด-19 ซึ่ง มีกว่า 47 สถาบัน ที่ได้ทำการวิจัยพัฒนาเพื่อผลิตวัคซีน และ มีการพัฒนายาต้านไวรัสกว่า 200 โครงการ โดย ขณะนี้ยังไม่มีวิธีที่สามารถกำราบเจ้าไวรัสโควิด 19 ได้อย่างอยู่หมัด เหมือนกรณีโรคฝีดาษ ที่เราหวังว่าจะค้นพบวิธีบรรเทาผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุดในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าผลของการระบาดครั้งนี้จะส่งผลอยู่อีกหลายปี หรือ หลายทศวรรษ
วิกฤตโควิด19 ส่งผลต่อปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในชุมชนอย่างไร ? ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ในประเทศอังกฤษ เมืองนิวออร์ลีน สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย
สังเกตได้จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณหนู สอดคล้องกับการปิดตัวลงของร้านค้า ร้านอาหารและสาธารณูปโภคอื่น ๆ ได้ทำให้หนูต้องหาแหล่งอาหารใหม่จึงทำให้พบเห็นได้ง่ายและเพิ่มขึ้นตามท้องถนน ทำให้หนูบุกรุกเข้าไปในบ้านเรือนหรืออาคารที่พักอาศัยของมนุษย์ ซึ่งเมื่ออยู่ในอาคารบ้านเรือนของมนุษย์ หนูจะหาแหล่งอาหารที่สมบูรณ์กว่า จากสาเหตุความตื่นตระหนกของมนุษย์ที่ซื้อและกักตุนอาหารเพิ่มขึ้น
ด้วยปัจจัยที่คาดการณ์ไม่ได้หลายๆอย่าง บทความนี้จึงคาดการณ์ว่าวิกฤตไวรัสโควิด 19 ที่จะส่งผลกระทบถึงปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในครัวเรือนและอุตสาหกรรมในภาพรวมดังนี้ สิ่งสำคัญที่ควรจดจำลำดับแรก คือ ในกลุ่มแมลงขาปล้อง (arthropods) ชนิดที่ดูดเลือดได้ อาทิ ยุง ไม่สามารถที่จะส่งผ่านโรคโควิด 19 ได้ แต่สัตว์บางประเภทในกลุ่มนี้อาจส่งผ่านไวรัสที่เรียกว่า อโบไวรัส (arboviruses) ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ เข้าผ่านผิวหนังของเหยื่อจากต่อมน้ำลายของสัตว์พาหะ แล้วแพร่ไปที่สัตว์สายพันธุ์อื่นในระหว่างการดูดเลือด สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ มีวิวัฒนาการทางจุลชีววิทยาจากโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนามาจากโครงสร้างที่มีการเคลือบของโปรตีนที่สามารถรับรู้และประสานเข้ากับผนังลำตัวแมลงขาปล้อง(arthropods) ซึ่งไวรัสที่ไม่ได้มีวิวัฒนาการจากขั้นตอนนี้จะถูกทำลายด้วยเอนไซม์ในลำไส้.
มากไปกว่านั้นไวรัสโควิด 19 ไม่สามารถติดต่อผ่านทางเลือด แต่เป็นการแพร่ของไวรัสผ่านทางละอองฝอย หรือการติดต่อจากพื้นผิวที่มีการปนเปื้อน สิ่งนี้หมายความว่าผลกระทบในอนาคตของการแพร่ระบาดโควิด 19 จะส่งผลกระทบต่อปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนในครัวเรือน ซึ่งเกี่ยวข้องทางอ้อมกับการย้ายที่อยู่อาศัยของมนุษย์ และส่งผลกระทบถึงความเสียหายทางเศรษฐกิจของโลก
มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นของปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนบางกลุ่ม เช่น ในกรณีที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงเกือบเป็นศูนย์ ทำให้ โรงแรม หรือ ที่พักขนาดเล็ก แทบไม่มีคนเข้าพักในห้องพัก จนเราสามารถสังเกตเห็นถึงการลดลงของตัวเรือด ถึงแม้ว่าตัวเรือดจะเป็นแมลงที่ปรับตัวได้เก่ง มีชีวิตอยู่ได้ที่อุณหภูมิ 22 องศา และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นเมื่ออุณหูมิที่เย็นลง เมื่อไม่ได้เปิดฮีทเตอร์ และ สามารถมีชีวิตได้นานโดยไม่มีอาหาร โดยช่วงอดอยาก ตัวเรือดจะทำการหาแหล่งเลือดใหม่โดยการย้ายถิ่นที่ระบาดไปอีกพื้นที่หนึ่ง ซึ่งเป็นโอกาสที่หายากในการกำจัดปัญหาตัวเรือด ตามหัองพักของ ธุรกิจโรงแรม เนื่องจากทุกห้องพักไม่มีแหล่งเลือดที่เป็นอาหารทำให้จำกัดการแพร่ระบาด สู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วขึ้น ช่วงนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการกำจัดปัญหาตัวเรือดได้อย่างราบคาบ
จากที่กล่าวไว้ข้างบน หนู อาจจะย้ายออกจากจุดต่าง ๆจากจุดที่มีมนุษย์อยู่น้อยลง (พื้นที่ที่ไม่มีคน) เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร พื้นที่บริการด้านอาหาร แมลงสาบอเมริกันจะเข้ามาจากทางท่อระบายน้ำ เพราะว่าไม่ได้ถูกชะล้างออกไปด้านนอกอย่างต่อเนื่อง และหนูจะพบได้บ่อยขึ้นจากฝ้าเพดานร้านอาหารซึ่งจะเงียบลงกว่าปกติ สิ่งนี้หมายความว่าเมื่อร้านอาหารเปิดใหม่อีกครั้งนึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะพบปัญหาแมลงและสัตว์พาหะทันที และอาจพบประเด็นการปนเปื้อนของอาหารด้วย ในข้อเท็จจริงบางประเทศได้มีปริมาณการใช้บริการทำความสะอาดเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับปริมาณธุรกิจที่กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง
นอกจากนั้นมาตรการ ล็อคดาวน์ ในหลายประเทศ ที่บังคับให้ประชาชนอยู่แต่ภายในอาคารบ้านเรือนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือ หลายเดือน ทำให้ระบบทำความร้อนที่ถูกใช้เป็นเวลาที่มากขึ้นในบ้านและอพาทเมนต์ ในเขตที่ภูมิอากาศเขตอบอุ่น ซึ่งมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำในช่วงเวลานี้ของปี ทำให้เกิดสิ่งปฎิกูลจากเศษอาหารเหลือทิ้งในครัวเรือน ที่ปราศจากการทำความสะอาด ในอุณหภูมิความอบอุ่นที่เหมาะสมจะเป็นแหล่งดึงดูดอย่างดี โดยเฉพาะ หนูและมด
จากการที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทุ่มเทกำลังเจ้าหน้าที่และทรัพยากรเพื่อใช้ในการบริหารภาวะการระบาดโควิด 19 ซึ่งจะทำให้งบประมาณในการจัดการกับโรคระบาดอื่นๆลดลง เช่น โรคไข้เลือดออก มาลาเรีย ซึ่งในขณะเดียวกัน จำนวนการติดโรคไข้เลือดออก ได้ถีบตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง เช่น ประเทศสิงคโปรด์มีผู้ติดเชื้อ 5,792
ราย และ เสียชีวิต 5 ราย ณ ข้อมูลถึง 28 เมษายน 2563 ซึ่งจำนวน ผู้ป่วยใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นเพิ่มสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่พวกเราต้องควบคุมการระบาดของแมลงและสัตว์รบกวน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากแมลงและสัตว์รบกวน เช่น ยุงลาย ในภาวะการต่อสู้กับวิกฤตไวรัสโควิด 19
อย่างไรก็ตามอิทธิพลรุนแรงที่วิกฤตไวรัสโควิด 19 จะส่งผลต่อปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนกระทบต่อเศรษฐกิจ องค์การสหประชาชาติได้ประเมินว่าวิกฤตไวรัสโควิด 19 จะทำให้เกิด ความเสียหายต่อต้นทุนเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างน้อย 1,000,000,000,000.- USD หรือ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ
33 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากยากเกินที่จะเข้าใจ ซึ่งไม่นานนี้ ธนาคารพัฒนาเอเชีย ได้คาดการณ์ตัวเลขความเสียหายอาจเพิ่มสูงถึง 4.1
ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทุกวันที่เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับเพิ่มขึ้น จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง เหมือนหมีที่ตะปบดิ่งลง และในช่วงไม่กี่เดือนก่อนต้นปี
2563 ทั่วโลกมี GDP ร่วงลงไปเสียหายไปแล้วถึง 3.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และอัตราว่างงานได้ขึ้นสูง อย่างฉับพลันและคาดการณ์ว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า ปี 1920 วิกฤตเกรทดีเพรทชั่น การแพร่ระบาดของโรคระบาดในปัจจุบันได้ทำให้คนชนชั้นแรงงานตกงานเป็นจำนวนมหาศาล จนถึง 1 พฤษภาคม
2563 จำนวนคนตกงานที่ได้ยื่นแจ้งผลประโยชน์ทดแทนในอเมริกามีจำนวนถึง 30 ล้านคนแล้ว ด้วยจำนวนคนทำงานที่น้อยลงในที่ทำงาน สอดคล้องกับจำนวนธุรกิจที่ปิดตัว การใช้จ่ายจึงลดลง ทำให้หลายธุรกิจเริ่มล้มละลาย โดยปราศจากการช่วยเหลือของรัฐบาล เป็นที่คาดการณ์ว่าอัตราการผิดพลาดชำระหนี้เงินกู้ซื้อบ้านอยู่ในอัตราสูงว่าภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี
2551 หลายประเทศได้เผชิญกับภาวะถดถอยและมีการคาดการณ์ภาวะความยากจนที่สูงขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาถึง 10 ปีในการฟื้นฟูวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
ปัญหาความยากจนไม่มีทางทำให้ชนะปัญหาแมลงและสัตว์รบกวนได้ ยกตัวอย่างตัวเรือด จากการยกตัวอย่างข้างต้น ขณะที่การท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมและบริการที่เกี่ยวข้องกำลังฟื้นตัว ทั่วโลกเริ่มมีความมั่นใจ การบุกรุกของตัวเรือดจากโรงแรมและห้องพักที่ทำการกำจัด เล็ดลอดและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วทั้งสังคมรอบข้าง ส่งผลกระทบเหล่านี้ให้ชนชั้นกลางถึงระดับล่าง ในที่ซึ่งผู้อาศัยไม่ได้มีทรัพยากร และ รายได้เพียงพอที่จะดูแลป้องกันปัญหาสัตว์รบกวน ทำให้ขาดการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอาคารจำนวนมากที่ถูกบุกรุกจาก ตัวเรือด แมลง และ สัตว์พาหะอื่น ๆ เกิดขึ้นในชุมชนเป็นจำนวนมาก ได้เจริญเติบโตเยอะในช่วงเศรษฐกิจที่ซบเซา ไม่ใช่เพราะหนู แมลงสาบ นก และรวมไปถึง แมลงข้อปล้อง
การเพิ่มขึ้นของภาวะความยากจน ทำให้เกิดแหล่งรวมของสิ่งปฎิกูลซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปในวงกว้างทั่วชุมชน ดังนั้นเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าปัญหาสัตว์รบกวนในชุมชนจะเพิ่มในอีกไม่กี่ปีหน้า
จากเหตุการณ์ข้างต้นนี้ หรือนี่จะกลายเป็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจกำจัดแมลง ? ซึ่งในกรณีนี้ยังถือเป็นการมองในแง่ร้าย ทว่าจนถึงขณะนี้ผู้ให้บริการกำจัดแมลงโดยส่วนใหญ่ ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยส่วนใหญ่บริษัทฯ ในกลุ่มธุรกิจนี้มียอดขายลดลงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่างานบริการสุขอนามัยละการฆ่าเชื้อยังมีความต้องการของตลาดเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งนี้ไม่น่าจะคงอยู่ในระยะยาว
ซึ่งในช่วงการล็อกดาวน์ ธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตปกติ ซึ่งต้องใช้บริการกำจัดแมลง หลายธุรกิจได้ปิดตัวลง
ปัจจุบันร้านอาหารส่วนใหญ่จะให้บริการเพียงซื้อกลับไปทานที่บ้าน และไม่มีการให้บริการให้นั่งทานในร้าน ส่วนสำนักงานธุรกิจ ต่างถูกปิดพนักงานต้องทำงานที่บ้าน รวมถึง ศูนย์การค้า และ ห้างสรรพสินค้าที่ถูกปิด ดังนั้น เราคาดการณ์ว่าในระยะยาวอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีบริษัทกำจัดแมลง ที่ลูกค้าใช้บริการกำจัดแมลงในปัจจุบัน ถูกยกเลิกสัญญามากขึ้น
จำนวนของสถานประกอบการที่ต้องใช้บริการจัดการกำจัดแมลงและสัตว์รบกวน (PMPs)
ต่อวันจะลดลง เพราะมาตรการด้านความปลอดภัยของ ผู้ดูแล และ บริหารอาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด
19. หลายข้อกำหนด และมาตรการที่เมื่อก่อนไม่จำเป็นก่อนเกิดเหตุการณ์โรคระบาดได้ถูกบังคับใช้ เช่น เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการส่วนมากรถูกบังคับให้ใส่อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)
และถูกบังคับเก็บให้เก็บใส่ถุงเมื่อบริการเสร็จ ก่อนย้ายเข้าอาคารใหม่ เพื่อป้องการการปนเปื้อนระหว่างสถานที่ ด้วยจำนวนอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)
ที่ไม่เพียงพอทั่วโลก เป็นสิ่งท้าทายที่บริษัท กำจัดแมลงและสัตว์ ที่จะจัดหาอุปกรณ์ให้อย่างเหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ
เนื่องจากความกลัวในการติดโรคโควิด 19 จากการระบาด ในขณะนี้ได้ทำให้เกิดความสงสัยและกังวลระหว่างผู้คน รวมถึงพวกเราถูกเตือนให้รักษาระยะห่างตลอดเวลา ดังนั้นเจ้าของบ้านจะไม่ต้อนรับพนักงานกำจัดแมลงเข้าอาคารบ้านเรือน สำหรับบริการกำจัดแมลง อาทิ บริการกำจัดแมลงสาบเยอรมัน หากขาดการเข้าบริการหลายเดือน อาจนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสี่ยงของเจ้าของบ้านที่จะพัฒนาไปสู่โรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด
… โดยเฉลี่ย ภาคครัวเรือนจะมีงบประมาณลดลง ในการกำจัดแมลงและสัตว์รบกวน อย่างต่อเนื่อง …
การฝึกอบรมหลักสูตรบริหารจัดการสัตว์รบกวนมืออาชีพ ก็ได้รับผลกรทบจากโรคระบาด. เนื่องจากงานประชุม สัมมนา ต่างๆรวมถึงการฝึกอบรมได้ถูกยกเลิก หรือ เลื่อนไปเป็นปี 2564. เนื่องจากความต้องการในการฝึกอบรมการกำจัดแมลงมีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การฝึกอบรมเปลี่ยนมาใช้ช่องทางออนไลน์ แต่โครงการเหล่านั้นต่างขาดการประเมินความเสี่ยงอย่างเหมาะสม. สิ่งนี้ทำให้ขัดขวางการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างมืออาชีพ
เพื่อที่จะประคับประคอง เศรษฐกิจที่เสื่อมถอยและอัตตราการว่างงานที่มโหฬาร. รัฐบาลทั่วโลกได้สูบฉีดเงินสดจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาคนว่างงานที่รุนแรงไปต่อได้ ตัวอย่าง เช่น อเมริกา ประเทศเดียวได้ปล่อยเงินสด 2 ล้านล้านเหรียญ หรือ 66 ล้านล้านบาท เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจประเทศ ถึงแม้ว่ารัฐบาลมีภาระหนี้สิน ถึง 25 ล้านล้านเหรียญ ซึ่ง จำนวนนี้ยังอาจไม่พอเพียงในอนาคต
โดยปราศจากการเพิ่มเติมเงินสดเข้าในระบบ เศรษฐกิจจะพังทลาย ประชาชนจะหิวโหย แต่เงินจะมาจากไหนล่ะ? ในขณะที่รัฐบาลจะกู้ยืมเงินต่อไป โดยที่สุดแล้วเงินที่ได้เพิ่มมาจาก คนที่ชื่อว่า “ผู้เสียภาษี” ดังนั้น สภาวะเศรษฐกิจจะถูกให้รัดเข็มขัด และอาจจะมีการเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น ผู้คนทั่วไปอาจมีอำนาจในการใช้จ่ายลดลง และเงินและความถี่ที่ลดลงในการกำจัดแมลงและลดความถี่ และพึ่งพิงการทำด้วยตัวเอง (DIY)มากขึ้น
ที่มากไปกว่านั้นคือ การแข่งกับวิกฤตไวรัสโควิด 19 พวกเราระดมทุนวิจัยในอนาคต วิจัยทางไวรัส เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงของภาวะคุกคามจากโรคเอดหรือเอชไอวี ความแตกต่าง โควิด กระทบทุกคน และเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าเงินจำนวนมากกว่าที่จะใส่ในการสืบสวนป้องกันโควิด สิ่งนี้บอกถึงการระดมทุน เรื่องแมลงพาหะในชุมชนได้รับผลการะทบ พัฒนาการการลดลงของผู้ชำนาญการ
ในภาวะที่ความสนใจทั่วโลกนั้นมุ่งไปที่การแก้ปัญหาโควิด 19 กลับกันวิกฤตภาวะเรือนกระจกกลับถูกเพิกเฉย การปิดตัวลงของหลายอุตสาหกรรมและการลดลงของแขกที่เข้าพักในโรงแรม อาจหมายความว่าข้อตกปารีสที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ด้วยเศรษฐกิจของโลกที่ถดถอยลงจะทำให้มีการให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาภาวะก๊าซเรือนกระจกลดลง โดยเฉพาะนักการชุมชนอนุรักษ์ที่ยังคงเพิกเฉยต่อปัญหาที่มีสาเหตุจากการทำของมนุษย์ อาทิ สภาวะก๊าซเรือนกระจก สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้มีส่วนเปลี่ยนแปลงจำนวนของปัญหาแมลงพาหะ สิ่งนี้ยุงแมลงพาหะทั่วอเมริกาที่ครั้งนึงเคยหนาวกว่านี้ เพื่อที่จะสนับสนุนปริมาณประชากรยุงเราได้พบถึงตัวเห็บหมัดที่มีภาวะ ตื่นตัวขึ้นกว่าในช่วงหน้าหนาวและด้วยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิทำให้สัตว์ตาย ช่วงชีวิตของแมลงอายุสั้นลงเพราะอากาศร้อนขึ้น การพัฒนาการของการต้านทานยาฆ่าแมลงที่มากขึ้น การปลูกธัญพืชทั่วโลก ถูกกดดันจาการเพิ่มขึ้นของแมลงรบกวน ทำให้ควบคุมยากขึ้นลดประสิทธิผลของยาฆ่าแมลง เราสามารถคาดการณ์ว่าแมลงจะชุกชุมขึ้น ในโลกที่อบอุ่นขึ้น
ประเด็นด้านบวกด้านนึงของโควิด คือการให้ความร่วมมือกันของแต่ละประเทศสิ่งนี้อาจหมายถึงงบป้องกันทางการทหารที่ถูกลดลงและนำไปใช้ในด้านที่เหมาะสมกว่านการป้องกันรักษาชีวิต และป้องกันเศรษฐกิจและรวมถึงการสู้รบปรบมือกับการเยียวยารักษาผลกระทบของอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เวลาจะเป็นตัวบอก อย่างไรก็ตามความล้มเหลวในการที่จะแก้ปัญหาโดยเร็วของโควิดโดยเฉพาะ อเมริกาและสหภาพยุโรป มูลค่าความเสียหายพุ่งขึ้นมหาศาล ซึ่งสิ่งนี้ได้ทำให้อาจจะมีการเปลี่ยนผ่านขั้วอำนาจของโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ความหวาดระแวงที่บางประเทศมีคืออาจจะรู้สึกถึงการเพิ่มขึ้นของงบประมาณทางการทหาร ซึ่งหมายถึงว่าเงินที่มีอยู่ลดน้อยลงไปสำหรับสินค้าทั่วโลก และลดลงของงบประมาณที่จะใช้ป้องกันแมลงและสัตว์รบกวนในครัวเรือน
เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่เราอยู่ในช่วงเวลาที่มืดมนและยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เส้นทางชีวิตพื้นฐานของพวกเราจะเปลี่ยนตลอดไป แล้วอุตสาหกรรมกำจัดแมลงต้องปรับเปลี่ยนให้อยู่รอดกับโลกในยุค “NewNormal” นี้ อย่างไร ใครจะไปรู้นอกจากว่าเวลาในอนาคตที่จะพิสูจน์สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นโชคไม่ดี ที่สิ่งที่ชัดเจนแล้ว เป็นอนาคตของเรา ที่อยู่ในโลกที่ไม่แน่นอน
Writer by.
Stephen L. Doggett is the Director, Department of Medical Entomology, NSW Health Pathology (ICPMR), Westmead Hospital, Sydney, Australia, and the Chief Editor of the FAOPMA Magazine.
Writer by.
Chow-Yang Lee is a Professor and the Endowed Presidential Chair in Urban Entomology,
Department of Entomology, University of California-Riverside.
Email: chowyang.lee@ucr.edu
Translate by.
Pogpong Vamasiripatt is CEO at Bug solutions co.,ltd. ISO 9001 ISO 14001 ISO 45001 Certified
Member of Thailand Pest Management Association.
Email: CEO@Bugsolutions.co.th